ในที่สุดก็มาแล้ว Apple iPhone 11 ตัวใหม่ล่าสุด ที่มาแทน XR รุ่นราคาจับต้องง่ายที่สุดของ Apple มาพร้อมวัสดุอลูมิเนียมและกระจก หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว LCD TrueTone เหมือน Liquid Retina ของ XR
เปิดตัวสีเครื่องมาให้เลือกกันถึง 6 สี เอาใจวัยรุ่นกันแบบสุดๆ เลือกได้ตามสไตล์และความชอบกันไปเลย ส่วนด้านหลังเป็นกล้องคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว ตัวนึงเป็นเลนส์ระยะปกติ และอีกตัวเป็นเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide
[youtube v=”H4p6njjPV_o”]
ด้านหน้าตา UI ของแอปกล้องก็มีการปรับแต่งมาใหม่ด้วย ที่จะโชว์ภาพจากเลนส์มุมกว้างให้เราเห็น ระหว่างที่กำลังเล็งถ่ายภาพจากล้องหลักอยู่ ช่วยให้เห็นภาพได้จากเลนส์ทั้งสองตัวพร้อมๆ กัน สะดวกไม่ต้องสลับไปมา
อัลกอริทึ่มในการจัดการภาพก็ปรับปรุงใหม่ด้วยเช่นกัน ให้ภาพที่มีสีสันผิว Skin Tone, Highlight และ Shadow ที่ดีกว่าเดิม และยังช่วยจัดการเอ็ฟเฟ็กต์ซูมภาพ Optical Zoom และ Portrait Effect จากล้องสองตัวได้ดีขึ้นด้วย
มีโหมดกลางคืน Night Mode ช่วยถ่ายภาพที่แสงน้อย ให้สว่างอย่างกับถ่ายกลางวัน เมื่อตัวเครื่องจับได้ว่ามืดมาก ก็จะเปิดเลนส์รับแสงให้นานขึ้น แล้วใช้ระบบลดสัญญาณรบกวน Noise Reduction ทำให้ภาพคมชัด
มีการปรับให้ถ่ายวิดีโอได้เร็วและง่ายขึ้น เพียงแค่กดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้จากในโหมดถ่ายภาพนิ่ง แค่นี้ก็สามารถถ่ายวิดีโอได้เลยทันที เป็นฟีเจอร์ที่มีชื่อเรียกว่า QuickTake
ส่วนกล้องหน้า อัปเดตระบบ TrueDepth ใหม่ ช่วยในการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นกลุ่ม ด้วยกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ตามด้วยการถ่ายวิดีโอเซลฟี่แบบ Slo-Mo มาอีก
ใช้ชิป A13 Bionic ที่ Apple บอกว่าเร็วแรงกว่า A12 Bionic ตัวเดิมใน XR และยังบอกว่าเป็นชิปที่แรงที่สุดบนสมาร์ทโฟนอีกด้วย แบตเตอรี่ในเครื่องใหม่ก็ยังใช้งานได้นานกว่า ใช้ได้นานขึ้นจากเดิมอีก 1 ชั่วโมงเต็ม
ส่วนเรื่องของ ราคา iPhone 11 นั้นถูกลงกว่าเดิม $50 (ประมาณ 1,500 บาท) จาก XR ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่ $699 (ประมาณ 21,400 บาท)
ที่มา: Engadget
