รู้จักฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 13 พร้อมให้อัปเดทได้แล้ววันนี้!

ระบบปฏิบัติการตัวใหม่อย่าง iOS 13 จะเปิดให้ทำการอัพเดตในวันที่ 20 กันยายา 2019 ที่กำลังจะถึงนี้ มาดูเต็มๆก่อนจะอัพเดตกันว่า มันมีอะไรบ้าง

Apple iOS 13

ระบบปฏิบัติการ iOS 13 ถูกเปิดตัวครั้งแรก บนเวที WWDC 2019 เมื่อเดือนมิถุนายน 2019 และ มันกำลังจะเปิดให้ทำการอัพเดตแล้วในวันที่ 20 กันยายน 2019

ก่อนจะได้อัพเดตไปใช้งานกัน เราไปดูกันว่า ระบบปฏิบัติการ iOS 13 นั้น มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

1. โหมดมืด (Dark Mode)

Apple iOS 13

โหมดมืด หรือ Dark Mode จะเปลี่ยนแอปต่างๆ ให้แสดงผลในโทนสีมืด ซึ่งเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่แสงน้อย เช่น ช่วงเวลากลางคืน ช่วงเวลาก่อนเข้านอน

ผู้ใช้งานจะรู้สึกสบายตา และ แสงจะไม่สว่างเกินไป จนรบกวนคนรอบข้าง เช่น ในห้องมืด หรือ ในโรงหนัง เป็นต้น

การเลือกใช้งานโหมดมืดนั้น สามารถเข้าไปเลือกเปิดใช้งานเองได้ที่ Control Center

หรือจะตั้งเวลาเปิด-ปิด ก็ทำได้ ไม่ว่าจะ

  • ตั้งเวลาเปิด-ปิด การใช้งานโหมดมืดตามที่ผู้ใช้งานกำหนด
  • หรือ ตั้งเวลาเปิด-ปิด การใช้งานโหมดมืด ตามเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้น และ ดวงอาทิตย์ตก

เมื่อเปิดใช้งานโหมดมืด ภาพพื้นหลัง จะปรับเปลี่ยนการแสดงผลเข้ากับโหมดมืดโดยอัตโนมัติ

2. รูปภาพและกล้อง

Apple iOS 13

ระบบปฏิบัติการ iOS 13 มีการปรับในส่วนของ รูปภาพ (Photos) ดังนี้

  • แถบรูปภาพแบบใหม่ทั้งหมด : โดยการแบ่งรูปและวิดีโอในคลัง จะถูกแบ่งโดย ปี เดือน และ วันที่ และสามารถเข้าไปดูทุกอย่างได้ใน “รูปภาพทั้งหมด”
  • Live Photos : วิดีโอ และ Live Photos จะเล่นอัตโนมัติแบบปิดเสียง เมื่อคุณเลื่อนดู ทำให้การดูรูป ดูการเคลื่อนไหว ดูมีชีวิตชีวาขึ้น
  • แสดงตัวอย่างรูปภาพอัจฉริยะ : ภาพตัวอย่างที่พรีวิวขนาดใหญ่ ที่แยกตาม วัน เดือน ปี จะช่วยแยกแยะรูปได้แบบชัดๆ โดยระบบอัจฉริยะที่ว่า จะเลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดของรูป มาพรีวิวเป็นตัวอย่าง
  • เอารูปภาพซ้ำๆออก : รูปที่ซ้ำๆ เช่น ภาพถ่ายหน้าจอ รูปถ่ายเอกสาร จะถูกแยก และซ่อน เพื่อให้ผู้ใช้เห็นเฉพาะรูปภาพที่ดีที่สุด
  • กิจกรรมสำคัญ : การแบ่งรูปภาพตามเดือน ก็จะมีแบ่งแยกย่อยตามกิจกรรม โดยจะแสดงชื่อสถานที่ หรือ เทศกาล ให้คุณสามารถรำลึกถึงกิจกรรม หรือเหตุการณ์ตอนนั้นๆได้
  • โหมดวันเกิด : ถ้าผู้ใช้ใส่วันเกิดของบุคคลในอัลบั้มไว้ จะมีการแสดงไฮไลท์ เมื่อถึงวันเกิดของบุคคลนั้นๆ
  • รวมภาพการบันทึกหน้าจอไว้ด้วยกัน : ระบบฉลาดขึ้น และรวบรวมเอาภาพบันทึกหน้าจอไว้ในอัลบั้มเดียวกัน
  • สามารถปรับคุณภาพของรูปได้ : โดยสามารถปรับค่าต่างๆของรูป เช่น เปิดรับแสง แสงไฟรอบๆ ไฮไลท์ เงา ความต่างระดับสี ความสว่าง จุดดำ ความอิ่มตัว และความมีชีวิตชีวา
  • รองรับการปรับแต่งวิดีโอ : นอกจากปรับแต่งรูป วิดีโอก็ปรับแต่งได้เช่นกัน (ทุกรูปแบบไฟล์วิดีโอที่บันทึกด้วย iPhone) เช่น ใส่ฟิลเตอร์ และครอบตัด หมุน เพิ่มการเปิดรับแสง เป็นต้น การแก้ไขวิดีโอ จะไม่ทำให้ไฟล์ต้นฉบับเสียหาย

ในส่วนของกล้องนั้น มีการปรับความเข้มของแสงในการจัดแสงสำหรับการถ่าย portrait โดยสามารถปรับเลื่อนแสงไฟให้เข้าใกล้แบบมากขึ้น เพื่อปรับให้ผิวเนียน เพิ่มความคมชัดของตา ซึ่ง ใบหน้าจะสว่างขึ้น หรือแม้แต่ลดความเข้มของแสง โดยปรับเลื่อนแสงไฟให้ออกห้างแบบก็ทำได้

และยังมาพร้อมกับ เอฟเฟ็กต์ใหม่ อย่างการถ่ายภาพขาวและดำไฮคีย์ ซึ่งจัดแสงถ่ายภาพให้ลุคออกมาเหมือนสไตล์คลาสสิก

Apple iOS 13

Apple iOS 13

3. ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย

Apple iOS 13

ในส่วนของความเป็นส่วนตัว และ ความปลอดภัย ของ iOS 13 มีดังต่อไปนี้

  • ลงชื่อเข้าใจงานแอปและเว็บไซต์ : ผู้ใช้งานสามารถลงชื่อเข้าแอปและเว็บไซต์ด้วย Apple ID ที่มีอยู่ โดยไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม/สร้างรหัสผ่านใหม่ เพียงแตะไปที่ “ลงชื่อเข้าด้วย Apple” แล้วยืนยันอย่างรวดเร็วด้วย Face ID หรือ Touch ID เท่านี้ก็เรียบร้อย ส่วนแอปจะขอแค่ชื่อและE-mail ถ้าหากผู้ใช้งานต้องการ ก็สามารถสร้าง E-mail เฉพาะเพื่อส่งต่อข้อความไปยัง E-mail จริงของคุณ โดย Apple จะไม่ติดตามกิจกรรมที่ทำ และผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของคุณได้ทั้งหมดด้วย
  • วิดีโอ HomeKit ที่ปลอดภัย : footage จากกล้องวงจรปิด จะมีระบบเข้ารหัส ตั้งแต่ต้น จนนำวิดีโอขึ้นไปเก็บบน iCloud ซึ่งจะมีแค่ตัวผู้ใช้ และ คนที่ถูกเชิญ
  • เปิดให้แอปใช้งานระบุตำแหน่งที่ตั้ง : ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งไปยังแอปต่างๆ โดย สามารถเลือกได้ว่า จะอนุญาตให้บอกตำแหน่งที่ตั้งเพียงครั้งเดียว หรือ บอกทุกครั้งที่ใช้งานแอพ
  • แจ้งเตือนเมื่อใช้ตำแหน่งที่ตั้ง : ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อมีแอปใดแอปหนึ่งใช้งานตำแหน่งที่ตั้งอยู่ ที่สำคัญ API มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยจะถาม permission ผู้ใช้งานก่อนจะให้ใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง เมื่อผู้ใช้งานใช้ Wi-Fi และ Bluetooth
  • ระบุตำแหน่งเมื่อแชร์รูป : ผู้ใช้งานสามารถควบคุมได้ ว่า จะแชร์ตำแหน่งที่ตั้งหรือไม่ เมื่อแชร์ภาพ

4. แผนที่

Apple iOS 13

แผนที่ใน iOS 13 มีการปรับปรุงใหม่ดังนี้

  • สามารถสำรวจเมือง แบบ 3D สมจริง และ หมุนไปรอบๆ 360 องศาได้ และเลื่อนดูตามถนนได้อย่างลื่นไหล แต่น่าจะยังไม่ได้เป็นกับทุกประเทศ
  • ปรับปรุงแผนที่ใหม่ ให้ละเอียด และดูสมจริงขึ้น ทั้ง ถนน อาคาร สวนสาธารณะ เป็นต้น
  • สามารถตั้งค่าให้สถานที่ต่างๆ บ้าน ที่ทำงาน ร้านกาแฟ ร้านอาหารโปรด เป็น รายการโปรดได้

5. Siri และ AirPods

Apple iOS 13

Siri และ หูฟังไร้สาย AirPods ในระบบปฏิบัติการ iOS 13 มีการปรับปรุงใหม่ดังต่อไปนี้

  • Siri สามารถทำงานร่วมกับแอปต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพด้วยคำสั่งลัดที่มาพร้อมเครื่อง รวมไปถึงคำสั่งลัดที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นเอง
  • สามารถจับคู่ AirPods 2 คู่ เข้ากับ iPhone 1 เครื่อง ก็สามารถแชร์เพลงฟัง หรือ ดูหนังจาก iPhone เครื่องเดียวกันได้
  • ให้ Siri อ่านข้อความแบบออกเสียง และฟังจากหูฟัง AirPods ได้ โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องหยิบ iPhone ขึ้นมา

6. Memoji และข้อความ

Apple iOS 13

iOS 13 มีการปรับแต่ง Memoji ใหม่ โดยเปิดให้ผู้ใช้งานสร้าง Memoji ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะสีผิว ทรงผม เครื่องประดับ ฯลฯ

และ Memoji จะกลายเป็นสติ๊กเกอร์ที่อยู่บนคีย์บอร์ดอัตโนมัติ ซึ่งสามารถใช้งานได้กับ แอปข้อความ E-mail และ แอปจากบริษัทอื่นๆด้วย

7. แอปเตือนความจำ

Apple iOS 13

แอปเตือนความจำใน iOS 13 มีการปรับปรุง และมากับรูปแบบใหม่ โดย เตือนความจำด้วยรายการอัจฉริยะ และ เตือนความจำโดยใช้ Siri เข้ามาช่วยงาน

Apple iOS 13

สามารถใช้แถบเครื่องมือด่วน ทำ checklist เพื่อเตือนความจำ และตรวจสอบความครบถ้วนไปในตัว

และ จะมีส่วนรายการอัจฉริยะ ที่ผู้ใช้สามารถจัดระเบียบได้ตามกลุ่ม เช่น รายการของ วันนี้ พรุ่งนี้ รายการที่ติด Flag เป็นต้น

8. CarPlay

Apple iOS 13

CarPlay ใน iOS 13 จะมาพร้อมกับหน้าจอแดชบอร์ดแบบใหม่ ซึ่งแสดงผลเส้นทางข้างหน้า ที่ดูแล้ว เข้าใจง่าย

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานสามารถดู ปฏิทิน และ ตารางงานต่างๆได้จาก CarPlay เพื่อไม่ให้คุณพลาดการนัดหมายที่ลงบันทึกไว้

และ Apple Music บน CarPlay จะแสดงรูปปกอัลบั้ม เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือก หรือ หาเพลงที่อยากฟังได้ง่ายยิ่งขึ้น

9. ประสิทธิภาพ

Apple iOS 13

ระบบปฏิบัติการ iOS 13 เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น โดย สามารถปลดล็อคเครื่อง เช่นใช้ Face ID ได้ไวขึ้นกว่าเดิมถึง 30% เมื่อเทียบกับ iOS 12

นอกจากปลดล็อคเครื่องไวขึ้นแล้ว ยังเปิดแอปไวขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า และยังมีขนาดการดาวน์โหลดที่เล็กลงด้วย

10. เทคโนโลยี AR

Apple iOS 13

iOS 13 จะมาพร้อมกับ ARKit 3 ซึ่งสามารถวางวัตถุเสมือนไว้ หน้า หรือ หลัง ตัวคนได้อย่างเป็นธรรมชาติ และ สมจริงยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานได้เต็มอิ่มไปกับประสบการณ์ AR มากยิ่งขึ้น

11. การทำงานส่วนอื่นๆ

Apple iOS 13

  • Apple Arcade : บริการ Game Subscription ที่มีเกมระดับคอนโซลให้เลือกเล่นหลายร้อยเกม ค่าบริการเดือนละ 99 บาทต่อเดือน เล่นได้ทั้งบน iPhone iPad Apple TV และ Mac
  • แอป mail : เขียน E-mail ได้อย่างมืออาชีพขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถปรับ ฟอนต์ ขนาด สี การจัดแนว การเยื้องข้อความ
    เข้าและออก รวมถึงรายการขึ้นต้นด้วยตัวเลขหรือจุดได้
  • แอป Notes : มากับมุมมองแบบใหม่ และ สามารถค้นหา Note ที่ต้องการได้ด้วย พร้อมลูกเล่น ทำ Checklist ส่วนโฟลเดอร์ที่แชร์ก็ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานร่วมกับผู้อื่นในโฟลเดอร์หรือโน้ตได้ง่ายขึ้น
  • แอป Health : เข้าถึงข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม และสำหรับคุณผู้หญิง ตัวแอปยังสามารถติดตามเรื่องรอบเดือน และการตกไข่ ได้ด้วย ซึ่งจะช่วยภาพรวมเรื่องสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น
  • Safari : หน้าเริ่มต้นที่ปรับปรุงใหม่ใน Safari โดยจัดเว็บไซต์ที่เข้าชมบ่อย เพื่อให้ผู้ใช้ไปยังหน้าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
  • การแก้ไขข้อความ : สามารถย้ายตัวเคอเซอร์ และ เลือกข้อความได้ง่ายขึ้น เลื่อนดู เอกสาร เว็บไซต์ และ E-mail ที่ยาวๆได้รวดเร็วขึ้น เพียงแตะที่แถบเลื่อนค้างไว้แล้วลากไปด้านล่างหรือด้านบนของหน้าจอ

ย้ำอีกทีว่า iOS 13 จะเปิดให้อัพเดตได้ในวันที่ 20 กันยายน 2019 นี้

อุปกรณ์ที่สามารถอัพเดตเป็น iOS 13 ได้ มีดังนี้

Apple iOS 13

  • iPhone 11
  • iPhone 11 Pro
  • iPhone 11 Pro Max
  • iPhone XS
  • iPhone XS Max
  • iPhone XR
  • iPhone X
  • iPhone 8
  • iPhone 8 Plus
  • iPhone 7
  • iPhone 7 Plus
  • iPhone 6s
  • iPhone 6s Plus
  • iPhone SE
  • iPod touch (รุ่นที่ 7)

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของ iOS 13 แบบเต็มๆ ได้จาก Apple iOS 13 | คุณสมบัติ iOS 13