Redmi Note 8

เปิดตัว Redmi Note 8/Pro สมาร์ทโฟนกล้อง 64 ล้านพิกเซล รุ่นแรกของโลก

เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว กับ Redmi Note 8 และ Note 8 Pro มาพร้อมฟีเจอร์เด่น กับกล้องหลังความละเอียด 64 ล้านเป็นตัวแรกของโลก

Redmi Note 8

Redmi Note 8

เริ่มกันที่ตัวแรกก่อนเลย มาพร้อม Snapdragon 665 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 11 นาโนเมตร มี Core Kyro 260 ทั้งหมด 8 Core ครึ่งนึงทำงานที่ความเร็ว 2.2 GHz ส่วนอีกครึ่งทำงานที่ 1.8 GHz

กล้องด้านหลังมีมาให้ทั้งหมด 4 ตัว เริ่มที่ตัวหลักเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GM2 ตัวที่สองเป็น Ultra-Wide-Angle มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล ตามด้วยเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล และ Depth Sensor 2 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องด้านหน้าเซลฟี่นั้น ก็จะเป้นกล้องที่ติ่งขอบจอด้านบน ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

Redmi Note 8

หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว LCD ความละเอียด Full HD+ ไม่ได้เป็น OLED ดังนั้น ตัวอ่านลายนิ้วมือ จึงต้องอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง

แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh ระบบชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ผ่านพอร์ต USB-C มีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร มี 3 สีคือ ดำ, ขาว และน้ำเงิน เปิดราคามาที่ 999 หยวน หรือประมาณ 4,300 บาท ได้แรมและรอม 4/64 GB

และยังมีตัวเลือกเพิ่มอีก 2 รุ่น คือ RAM+ROM 6/64 GB ที่ราคา 1,199 หยวน ประมาณ 5,200 บาท และรุ่น 6/128 GB ที่ 1,399 หยวน ประมาณ 6,000 บาท

Redmi Note 8 Pro

ต่อด้วยรุ่นสูงขึ้นมา มาพร้อมกับเซ็นเซอร์กล้อง Samsung ISOCELL Bright GW1 ชิงตัดหน้า realme เปิดตัวสมาร์ทโฟนกล้อง 64 ล้านพิกเซลอย่างเป็นทางการเป็นตัวแรกก่อนเลย มาพร้อมเทคโนโลยี Quad-Binning Pixel

ขนาดหน้าจอที่ 6.53 นิ้ว LCD ความละเอียด Full HD+ มีขอบดำด้านข้างรอบตัวเครื่อง (Bezel) ที่บางกว่า ขอบด้านล่างหน้าเพียง 4.2 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่นั้น ความละเอียดให้มาที่ 20 ล้านพิกเซล

ด้านหลังจะแตกต่างกับ Note 8 อย่างชัดเจน ด้วยกล้อง 4 ตัวที่เรียงเป็นแนวตั้งอยู่กลางตัวเครื่อง กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล ตามด้วยกล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล + เลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล และ Depth Sensor 2 ล้านพิกเซล

สเปกภายในใช้ชิป MediaTek Helio G90T ตัวใหม่ นับได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่ใช้แพล็ตฟอร์มชิปนี้ แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 18 วัตต์

และยังมีความเป็นรุ่นแรกอีกอย่าง สำหรับสมาร์ทโฟนแบรนด์ลูกในเครือ ที่มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ Liquid Cooling Chamber เพื่อช่วยให้ชิปสายเกมมิ่งตัวนี้ ทำงานได้ดียิ่งขึ้น

มีให้เลือก 3 สี คือ ขาว, ดำ และเขียว เตรียมเปิดตัวจำหน่ายเดือนกันยายนหน้า เริ่มที่ราคา 1,399 หยวน ประมาณ 6,000 บาท ได้ 6/64 GB และรุ่น 1,799 หยวน ประมาณ 7,700 บาท ได้ 8/128 GB

ที่มา: GSM Arena