สรุป ฟีเจอร์เด่น Samsung Galaxy A55 | A35 5G ให้ชีวิตคมชัดขึ้น 4 เท่า!
สรุป ฟีเจอร์เด่น Samsung Galaxy A55 | A35 5G ถ่ายวิดีโอ 4K คมชัด แคปภาพจากวิดีโอได้ สเปคแรง แบตอึด กันน้ำ IP67 ในราคาเริ่มต้น 11,999 บาท
ทีมงานล้ำหน้าโชว์ เราได้มีโอกาสทดสอบลองเล่น Asus Zenfone 4 Selfie Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ส่งท้ายปี 2017 จากทาง Asus ที่เน้นสุดๆ กับกล้องหน้า ที่ใช้เป็นกล้องคู่แบบ DuoPixel 24 ล้านพิกเซล ถ่ายเซลฟี่ได้สวยคมและฟีเจอร์เด่นๆ ในการถ่ายภาพอีกเพียบ
ตัวเครื่องของ Asus Zenfone 4 Selfie Pro การออกแบบต่างๆ ยังคงหน้าตาแบบในตระกูล Zenfone 4 ไว้ทุกประการ ด้วยตวเครื่องที่ใช้วัสดุเป็นโลหะ ขอบเครื่องโค้งมน ด้านหน้าเป็นกระจกขอบโค้งมน 2.5D ด้านหน้ามีปุ่มโฮมพร้อมสแกนลายนิ้วมือที่ด้านล่างของจอ ส่วนหน้าจอใช้เป็นแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 ความละเอียด Full HD
จุดเด่นเน้นเป็นพิเศษของรุ่นนี้ คือกล้องหน้าที่ใข้เป็นแบบกล้องคู่ Dual Camera ตัวกล้องหลักเป็นกล้องแบบพิกเซลคู่ 24 พิกเซล (แต่ภาพที่ถ่ายได้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล) เซนเซอร์ Sony IMX362 ทำงานคู่กับกล้อง 8 ล้านพิกเซล โดยรูรับแสงให้มากว้าง f/1.8 และมีไฟแฟลชด้านหน้าช่วยเวลาถ่ายภาพมาให้ด้วย
ด้านข้างมีปุ่มกดปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power และถาดซิมเป็นแบบ Hybrid เลือได้ว่าใส่ 2 ซิม หรือ 1 ซิม + microSD พอร์ตเชื่อมต่อใช้เป็น Micro USB และมีช่องสำหรับเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร
ด้านหลังเครื่องมีเลนส์กล้องหลัก ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (f/2.2) Autofocus พร้อมแฟลช LED ตัวเลนส์กล้องนูนออกมาพอสมควร
ทางทีมงานได้ทดสอบลองใช้เครื่องที่ทาง Asus ได้ให้มาทดลองใช้เป็นเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ เราจะมาเล่าประสบการณ์ในการใช้งานว่า Zenfone 4 Selfie Pro รุ่นนี้มีอะไรที่น่าประทับใจ และอะไรที่ใช้แล้วรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง
ครั้งแรกที่แกะกล่องมาลองถือ รู้สึกได้ถึงความเบา เมื่อเทียบกับขนาดของเครื่อง หน้าจอ 5.5 นิ้ว แต่หนาเพียงแค่ 6.9 มิลลิเมตร และหนักแค่ 142 กรัม ถือว่าน้ำหนักค่อนข้างน้อยมาก จับได้ถนัดมือ และน่าจะถูกใจสาวๆ ที่อยากได้มือถือจอใหญ่แต่ไม่หนักมาก
Zenfone 4 รุ่นนี้ จั่วหัวชัดเจนว่าทำมาเพื่อเน้นการเซลฟี่โดยเฉพาะ และเมื่อใช้งานจริงก็รู้สึกว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ประสิทธิภาพของตัวกล้องที่เป็นแบบ DualPixel และรูรับแสงที่กว้าง f/1.8 การถ่ายเซลฟี่นั้นได้ภาพที่สว่างและคมชัด ในโหมดถ่ายธรรมดาไม่ได้ใช้กล้องคู่ ฉากหลังก็มีเบลอได้พอสมควร
ตัวกล้องคู่ที่มาช่วยเสริมในเรื่องการทำ Portrait Mode ปรับหน้าชัดหลังเบลอ ก็ทำได้ค่อนข้างแม่นยำ ขอบระหว่างภาพบุคคลกับฉากหลังตัดขอบได้ค่อนข้างคม และการปรับเบลอฉากหลักก็ไม่หลอกตา นอกจากนี้ยังมีโหมดในการถ่ายภาพเซลฟี่ในมุมกว้างที่เลือกใช้เป็นเลนส์ Wide 120 องศา ทำให้ถ่ายเซลฟี่เก็บภาพได้กว้างขึ้น
ความสามารถที่ขาดไม่ได้สำหรับการเซลฟี่ยุคนี้ที่สาวๆ ทุกคนต้องการ คือการถ่ายเซลฟี่ด้วยโหมด Beauty Master ปรับบิวตี้ การปรับค่าแยกได้ทั้งความเนียน, สว่าง, ตาโต ฯลฯ โดยที่โหมดบิวตี้นี้ไม่ได้มีแค่ตอนถ่ายภาพ ยังปรับให้สวยเนียนตอนที่ถ่ายวิดีโอ หรือแม้แต่ในการ LIVE ถ่ายทอดสดผ่าน Facebook หรือแอพอื่น ก็ยังปรับเป็นบิวตี้ได้
คือโหมดนี้ถือว่าเป็นที่ต้องการสำหรับสาวๆ ที่ทำ LIVE บ่อยๆ หรือแม่ค้าออนไลน์ที่เดี๋ยวนี้มี LIVE ขายของกัน บ่อยครั้งที่เจอกล้องหน้าของสมาร์ทโฟนทำร้ายด้วยความสมจริงเกินไป (ฮา) การได้ฟีเจอร์ที่มาปรับให้ภาพตอน Live สดสว่างสวย หน้าใสขึ้น ถือเป็นลูกเล่นน่าสนใจของ Asus ที่มีใส่มาให้แล้วมีประโยชน์
อย่างที่บอกว่า Asus จัดเต็มมาให้กับกล้องหน้ารุ่นนี้ เรื่องของวิดีโอนั้น สามารถบันทึกได้ถึงระดับของ 4K UHD กันไปเลย รวมถึงยังมีระบบช่วยลดการสั่นไหวของภาพแบบ EIS ทำให้ภาพวิดีโอเซลฟี่ที่ได้ชัดและนิ่งมากยิ่งขึ้น
เมนูซอฟท์แวร์ในการถ่ายภาพของ Asus เอง ก็มีให้เลือกปรับได้ค่อนข้างอิสระ ในโหมด Pro ก็เลือกปรับค่าได้ครบถ้วนทั้ง ISO, EV, ความเร็วชัดเตอร์, White Balance ปรับเพื่อใช้ถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ ได้ และประสิทธิภาพของกล้องหน้าและหลังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K โดยมีระบบกันสั่นแบบ EIS
ถ้าดูสเปคของเครื่องแล้ว Zenfone 4 Selfie Pro ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้แรงจัดมาก แต่ก็ยังเพียงพอสำหรับการเล่นเกมทั่วๆ ไป ส่วนเกมยอดฮิตอย่าง ROV ก็เล่นได้ จากที่ลองก็ไหลๆ ไม่มีกระตุก (แต่ก็ไม่ได้แบบกราฟฟิคสูงสุดนะ) ถือว่าเล่นเกมก็ยังได้อยู่ นอกจากนี้ตัวระบบของเครื่องก็ใส่ Gsme Mode ที่เพิ่มอรรถประโยชน์ระหว่างการเล่นเกมให้ อาทิ ปรับเน้นประสิทธิภาพเครื่องเพื่อเล่นเกม, บันทึกหน้าจอและ LIVE, Macro เพื่อสร้างคำสั่งบังคับอัตโนมัติ ฯลฯ
กลายเป็นความสามัญที่สมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ต้องมีมาให้กัน นั่นคือ Twin App สำหรับให้เราใช้งานบัญชีแอพโซเชียลต่างๆ ได้ 2 บัญชีในเครื่องเดียว โดยเลือกเปิดใช้งานได้ใน Setting มีรองรับทุกแอพดัง ไม่ว่าจะเป็น facebook, Instagram, LINE, Messenger ฯลฯ
ชิปเซต Snapdragon 625 RAM 4GB นั้น ถือว่าเป็นประสิทธิภาพระดับกลาง ที่ใช้งานทั่วไปไหลลื่นไม่มีปัญหา เล่นเนต,โซเชียล ถ่ายภาพ ฯลฯ สบายๆ การเล่นเกมทั่วไปเล่นได้หมด ส่วนเกมกราฟฟิคหนักๆ นั้นอยู่ได้ที่ระดับกลางตามศักยภาพเครื่อง แบตเตอรี่ที่ให้มาในเครื่อง 3,000 mAh ขนาดไม่มากไม่น้อยเกินไป ใช้งานไม่หนักมากก็พออยู่รอดได้เต็มวัน แต่ยังไงก็มีระบบ fast Charge มาให้ด้วยช่วยชาร์จเร็วเติมแบตระหว่างวันได้
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่จะใส่พวกระบบเสียงดีๆ มาให้ด้วยนั้นเหลือน้อยเต็มที แถมยังคอยจะถอดพอร์ต 3.5 มิลลเมตรทิ้งกัน ใน Zenfone 4 Selfie Pro ทาง Asus เองก็มีระบบเสียง SONICMASTER 4.0, NXP Smart AMP ที่ให้คุณภาพเสียงได้ถึงระดับ Hi-res และการฟังกับหูฟังก็มีรองรับ DTS Headphone X ด้วย
ในความครบเครื่องหลายๆ อย่างที่มีมา แต่น่าเสียดายที่บางอย่างดันขาดหายไป อย่างเช่นระบบ NFC ที่ดูจะเป็นพื้นฐานไปแล้ว แต่ใน Zenfone 4 Selfies Pro ดันไม่มีให้มา
เข้าใจว่าต้องการเน้นในการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นหลัก แต่กล้องหลังนั้นกลายเป็นว่าโดนละเลยไปอย่างน่าเสียดาย กล้องความละเอียด 16 ล้านที่รูรับแสงกว้างเพียง f/2.2 ถ้าถ่ายภาพเวลากลางวัน ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเจอซีนเวลาที่แสงน้อยหรือเวลากลางคืนเข้าไป noise มาเต็มและเก็บรายละเอียดภาพได้ไม่ดีเท่าไรนัก
เรื่องนี้จริงๆ ค่อนข้างเห็นใจ Asus ไม่น้อยที่ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนการออกแบบตัวเครื่องในตระกูล Zenfone 4 ใหม่ เพราะว่าเพิ่งจะเปิดตัวไปช่วงกลางปี 2017 แต่ถ้าดูในท้องตลาดตอนนี้ แบรนด์อื่นนั้นหนีไปใช้หน้าจออัตราส่วนใหม่แบบ 18:9 ที่ยาวยืดขึ้น ทำให้เครื่องดูเล็กลงแต่จอใหญ่ขึ้น
จะเรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นอัพเดทท้ายปีของ Asus ก็ว่าได้ เพราะหลักๆ แล้วเป็นการเพิ่มเรื่องประสิทธิภาพของกล้องหน้าเป็นหลัก ดีไซน์เครื่องนั้นเหมือนเดิม ถ้าดูกันเรื่องของกล้องเซลฟี่แล้ว ถือว่าทำออกมาได้ดี คือใช้งานถ่ายภาพออกมาได้ภาพหน้าใสสวยปิ๊งแบบที่ไม่ต้องไปผ่านแอพอะไรอีกให้เสียเวลา และยังมีบิวตี้ได้ทั้งถ่ายวิดีโอและทำ LIVE ที่หาไม่ได้ในสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น
แต่นอกเหนือจากเรื่องของการถ่ายเซลฟี่แล้ว ฟีเจอร์และประสิทธิภาพด้านอื่นถือว่ายังไม่มีอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ เรียกว่าธรรมดาพื้นฐานตามสเปคของเครื่อง รวมถึงดีไซน์ของเครื่องเองก็ดูไม่แตกต่างจากเดิมแม้แต่น้อย จึงทำให้ไม่ค่อยมีแรงดึงดูดให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจอะไรกับรุ่นนี้มากนัก
ส่วนเรื่องราคาเปิดขายในไทย 13,990 บาทนั้น จริงๆ ก็ถือว่าเป็นราคาที่ไม่ได้สูงเกินไป แต่ในตลาดราคาโซนนี้ คู่แข่งแบรนด์อื่นกำลังสู้รบทำสงครามกันอย่างดุเดือด ทำให้ราคาของ Asus Zenfone 4 Selfie Pro นั้น ดูสูงกว่าแบรนด์อื่นอยู่พอสมควร
Asus Zenfone 4 Selfie Pro วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ราคา 13,990 บาท สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Asus Zenfone 4 Selfie Pro เพิ่มเติมได้ที่ www.asus.com