เปิดตัว Huawei Mate 10 Series สมาร์ทโฟนทรงพลัง วางขายในไทย พ.ย.นี้

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Huawei Mate10 Global 2017 ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Huawei Mate 10 Series พร้อมกัน 2 รุ่นคือ Mate 10 และ Mate 10 Pro ชูจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่งด้วยระบบ AI ที่ช่วยประมวลผลการทำงานต่างๆ ในสมาร์ทโฟนอย่างชาญฉลาด ทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายขึ้น สะดวกมากขึ้น พร้อมประสิทธิภาพของเครื่องและกล้องถ่ายภาพที่ดีเยี่ยม พร้อมเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยประเทศไทยจะเป็นประเทศกลุ่มแรกที่จะได้วางจำหน่ายอีกด้วย

หน้าจอใหญ่ FullView จอใหญ่ในขนาดเครื่องที่เล็กลง

การออกแบบตัวเครื่องของ Huawei Mate 10 Series นั้น พัฒนาให้ขนาดของหน้าจอมีความเต็มชิดขอบมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้หน้าจอมีขนาดใหญ่แล้วตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม สำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีความต่างกันในเรื่องของสเปคจออยู่คือ

  • Mate 10 จะเป็นหน้าจอ LCD ขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด QHD ในอัตราส่วน 16:9
  • สำหรับ Mate 10 Pro จะเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6 นิ้ว FHD+ อัตราส่วนหน้าจอ 18:9

Mate 10 display

หน้าจอของ Huawei Mate 10 และ Mate 10 Pro จะมีความแตกต่างกันนอกจากขนาดและสัดส่วนของจอแล้ว ตัวเทคโนโลยีของจอก็จะต่างกันบ้าง โดย Mate 10 จะเป็น RGBW HDR ที่มีค่าความสว่างสูงสุด 730 nits เพื่อการมองในกลางแดด และปรับแสงให้สว่างน้อยสุดได้ที่ 1.8 nits ในเวลากลางคืนเพื่อมองได้ไม่แสบตา ในชาร์จจะเห็นว่าทำได้ดีกว่า iPhone 8 Plus

และหน้าจอ RGBW นั้นมีความแตกต่างจาก RGB ทั่วไปที่แสดงสี แดง เขียว และน้ำเงิน 3 สี แต่ RGBW จะมีเพิ่มสีขาวมาอีกสี เพื่อช่วยในการแสดงสีขาวแยกออกมา ช่วยประหยัดพลังงานและคมชัดเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

RGBW display

ส่วนหน้าจอของ Mate 10 Pro ที่เป็น OLED HDR นั้น จะมีคอนทราสท์ที่สูงถึง 70000:1 แล้วค่าสี Color Saturation NTSC สูงขั้นไปถึง 112% นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้แม้พาเนลจะคนละเทคโนโลยี แต่ก็รองรับ HDR เรียบร้อย เพื่อเล่นภาพวิดีโอที่สีสันสดใสได้เต็มที่

Huawei Mate 10 Pro

การดีไซน์ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์

หัวเว่ยยังคงชูเรื่องของการดีไซน์ตัวเครื่อง ตั้งแต่ตัวหน้าจอที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่เต็มด้านหน้าแบบด้านข้างเกือบจะไร้ขอบ ส่วน bezel ขอบด้านบนล่าง ก็บางลงมากๆ เช่นกัน โดยที่ตัว Mate 10 ด้านหน้าจะยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านล่างของจอ แต่ก็ยังขอบบางกว่า iPhone 8 Plus

ส่วน Mate 10 Pro ที่ใช้หน้าจอขนาดใหญ่กว่าเป็น 6 นิ้ว และ ratio 18:9 ขอบข้างรอบเครื่องนั้นแทบจะไม่เหลือ โดยเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะถูกย้ายไปไว้ด้านหลังแทน แน่นอนว่าถ้าเอา Mate 10 Pro กับ iPhone 8 Plus จะเห็นได้ว่าเต็มตากว่าเยอะ และถ้าเทียบกับ iPhone X ก็ถือว่าเต็มพื้นที่สูสีกันมากๆ

Huawei Mate 10 Pro design

Huawei Mate 10 Pro design

ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ใช้วัสดุเป็นกระจก Gorilla Glass ที่มีการซ้อนชั้นของวัสดุสีต่างๆ เพื่อความสวยงาม และในการประกอบเครื่อง Mate 10 Pro จะมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 ส่วน Mate 10 จะเป็นมาตรฐาน IP53

Huawei Mate 10 Pro design

ดีไซน์ที่ด้านหลัง หัวเว่ยชูความเป็น Iconic ของการวางตำแหน่งของเลนส์กล้อง แฟลช เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เซนเซอร์ต่างๆ รวมถึงพอร์ตและปุ่มรอบเครื่อง วางในตำแหน่งและสัดส่วนที่ลงตัวสวยงาม

Huawei Mate 10 Pro design

การวางเซนเซอร์ของ Mate 10 Pro นั้น นอกจากความสวยงามแล้ว ยังคำนึงถึงเรื่องการใช้งาน มีแอบแซะ Galaxy S8 และ Note 8 ที่วางเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ในตำแหน่งที่ผู้ใช้มักจะกดพลาดไปโดนเลนส์กล้องแทน

Huawei Mate 10 Pro design

เรื่องของสี Huawei Mate 10 จะมีทั้งหมด 4 สีคือ Mocha Brown, Black, Champagne Gold และ Pink Gold ส่วน Huawei Mate 10 Pro ก็มี 4 สีด้วยเช่นกัน ได้แก่ Midnight Blue, Titanium Gray, Mocha Brown และ Pink Gold

ที่สุดของความหรูหรากับ Huawei Mate 10 Porsche Design

ในปีที่แล้วหัวเว่ย มีการร่วมมือกับทาง Porsche Design ทำ Mate 9 Porsche Design ออกมา ที่มีความหรูหราและดีไซน์อย่างสวยงาม มาใน Mate 10 ก็ยังคงร่วมมือกัน โดยเปิดตัว Mate 10 Porsche Design ที่จะมาในตัวเครื่องสี Daimond Black ส่วนแถบด้านหลังจะคาดเป็นแนวตั้ง พร้อมโลโก้ของ Porsche Design อย่างสวยงาม โดยในชุดจะมีอุปกรณ์เสริมสวยงาม Luxury  สำหรับสเปคต่างๆ ของ Mate 10 Porsche Design จะเหมือนกับ Mate 10 Pro

Huawei Mate 10 Porsche design

Huawei Mate 10 Porsche design

Huawei Mate 10 Porsche design

Ultimate Performance สเปคภายในที่ทรงประสิทธิภาพ

เป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยได้พัฒนาชิปเซต Kirin 970 Octa-core ที่นอกจากจะมี CPU เพื่อประมวลผล 8 core และ GPU ในการประมวลผลกราฟฟิค ได้มีการเพิ่ม NPU (Neural Processing Unit) มีหน้าที่ประมวลผลด้าน AI โดยเฉพาะ ทั้งด้านการทำงานของผู้ใช้ ทำให้การใช้งานยังคงทำงานได้รวดเร็วไม่มีอืด โดยทาง Huawei บอกว่าระบบจะคอยปรับแต่งให้เครื่องใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพได้นานถึง 18 เดือน นอกจากนี้ยังช่วยการทำงานด้านอื่นๆ ที่มีการประมวลผลให้รวดเร็วและคิดวิเคราะห์ได้อย่างชาญฉลาด

Huawei Mate 10 AI Benchmark Photo

ประสิทธิภาพของ NPU ใน Kirin 970 มีส่วนช่วยในการประมวลผลในด้านการแยกแยะได้รวดเร็ว มีการเปรียบเทียบการทำงานด้านการจัดจำแนกรูปภาพตามประเภทอัตโนมัติ จำนวน 100 รูป Mate 10 Pro ใช้เวลาเพียงแค่ 5 วินาที ส่วนคู่แข่งอย่าง iPhone 8 Plus ใช้เวลา 9 วินาที ส่วน Galaxy Note 8 ใช้เวลาถึง 100 วินาที

Huawei Mate 10 AI Benchmark Photo

งานนี้ หัวเว่ยโชว์เหนือเรื่องระบบการเชื่อมต่อสัญญาณเครือข่าย ที่ล้ำหน้ามากๆ โดยรองรับเครือข่ายมาตรฐาน 4.5G เป็นรุ่นแรกของโลก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1.2 Gbps CAT 18

นอกจากนี้ Huawei Mate 10 และ Mate 10 Pro ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรก ที่รองรับ 2G/3G/4G และ 4G VoLTE ได้ทั้ง 2 ซิมอีกด้วย

ใส่ใจในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ดีและมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ยอมรับในระดับโลก

สิ่งที่สมาร์ทโฟนในตระกูล Mate Series ได้รับคำชมมาโดยตลอดก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน และในตระกูลของ Mate 10 นั้น แบตเตอรี่ใส่เข้ามาให้ถึง 4,000 mAh และเมื่อทำงานร่วมกับ NPU แล้ว ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานกว่า Mate 9 เพิ่มขึ้นถึง 30% เรียกได้ว่าใช้งานสมาร์ทโฟนแบบข้ามวันได้อย่างสบายๆ

แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หัวเว่ยก็มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว SuperCharge ใช้เวลาการชาร์จเพียง 30 นาที ก็จะชาร์จแบตได้ถึง 58% เทียบกับ iPhone 8 Plus แล้ว Mate 10 ชาร์จได้เร็วกว่า 50% และเร็วกว่าระบบชาร์จไร้สายถึง 4 เท่า

หัวเว่ยใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องของแบตเตอรี่ ใน Mate 10 และ Mate 10 Plus ได้ผ่านการทดสอบจาก TUVRheimland ที่เป็นหน่วยงานตรวจสอบด้านระบบพลังงาน ได้ทำการทดสอบแบตเตอรี่ของทั้ง 2 รุ่นนี้ ในเรื่องเทคโนโลยีชาร์จเร็ว SuperCharge ว่ามีความรวดเร็วในการชาร์จ ในทั้งสภาวะอากาศหนาวจัด ร้อนจัด และประสิทธิภาพในการชาร์จที่ปลอดภัยขั้นสูงสุดอีกด้วย

การถ่ายภาพด้วยกล้องระดับคุณภาพ ผสานการทำงานร่วมกับ AI

มาที่เรื่องของกล้องกันบ้าง กล้องหลังของ Mate 10 และ Mate 10 Pro ยังเป็นกล้องคู่ที่พัฒนาร่วมกับทาง Leica โดยก้าวไปอีกขั้น เป็น Summilux-H ที่มีรูรับแสงกว้างถึง f/1.6 โดยเป็นกล้อง 12 ล้านพิกเซล (RGB) ทำงานคู่กับกล้อง 20 ล้านพิกเซล (Monochrome) ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดแม้จะมีแสงน้อย รวมถึงยังมีระบบกันสั่น OIS ทั้ง 2 เลนส์

ระบบ AI ก็ถูกนำมาช่วยให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่ระบบสามารถแยกแยะประเภทของรูปภาพได้มากมายถึง 13 รูปแบบ ทำให้สามารถปรับค่าภาพของการถ่ายภาพให้เหมาะสมกับซีนที่จะถ่ายได้ทันที อาทิ ภาพวิว, ภาพบุคคล, อาหาร, สัตว์เลี้ยง, ดอกไม้ ฯลฯ เพื่อให้ได้ภาพที่ดีและเหมาะสมที่สุด

กล้องหน้าสำหรับการถ่ายเซลฟี่ ยังเป็นกล้อง Leica แบบกล้องเดี่ยว ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แต่มีเพิ่มการทำงานร่วมกับ AI เพื่อช่วยประมวลผลการปรับภาพ portrait ให้ได้โบเก้ที่สวยงามมากขึ้น

ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม

ในด้านการใช้งาน เครื่องจะมาพร้อมกับ Android 8.0 Oreo เวอร์ชั่นล่าสุด แล้วครอบด้วย EMUI 8.0 เวอร์ชั่นใหม่ มีรูปแบบที่สวยงามกว่าเดิม มี Dynamic Wallpaper ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบตามเวลา

จุดเด่นของหน้าจอ 18:9 ใน Huawei Mate 10 Pro ก็คือช่วยให้ใช้งานแบ่ง 2 หน้าจอ พร้อมกัน 2 แอพ ให้พื้นที่และมุมมองมากขึ้นและดีกว่าเดิม

มาเรื่องของระบบเสียง งานนี้จัดให้แบบเต็มที่ ด้วยคุณภาพระดับ Lossless Audio ได้ถึงระดับ Hi-Res audio 384K/32bit

PC Mode จะมี dock สำหรับเสียบเพื่อต่อออกหน้าจอเพื่อใช้งานแบบ PC ได้

อีกฟีเจอร์ที่เด็ดดวงมากๆ เพราะ Huawei Mate 10 และ Mate 10 Pro สามารถเอาอุปกรณ์เชื่อมต่อที่เป็น USB-C ออกเป็น HDMI เพื่อขึ้นจอใหญ่แล้วแสดงผลแบบ PC Mode ได้ทันที และเชื่อมต่อคีย์บอร์ดและเม้าส์ผ่าน Bluetooth นอกจากนี้การทำงานยังเลือกทำงานแยกกันระหว่างตัวสมาร์ทโฟนและการแสดงผลบนจอ เลือกเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็น Touchpad และคีย์บอร์ดเพื่อควบคุมได้อีกด้วย

ระบบแปลภาษา AI Accelerated Translation

อีกความล้ำของระบบ AI บอน Mate 10 คือระบบการแปลภาษาแบบ Realtime ที่ทาง Huawei ร่วมกันพัฒนากับทาง Microsoft ที่มีระบบการแปลภาษาได้โดยประมวลผลแบบ Offline โดยไม่ต้องวิ่งขึ้นไปประมวลผลที่ cloud รองรับมากกว่า 50 ภาษา และรองรับทั้งการแปลจากเสียงพูด, ข้อความ, ห้องแชทสนทนา และแปลจากรูปภาพ

 

สรุปราคา วันวางจำหน่าย Huawei Mate 10 Series

กำหนดการ วางจำหน่าย Huawei Mate 10 Series จะเริ่มขายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยที่ประเทศไทยจะได้อยู่ในกลุ่มประเทศแรกที่วางขาย แต่จะมีเฉพาะรุ่น Huawei Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design สำหรับ Mate 10 นั้นยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทย

  • ราคา Huawei Mate 10 (RAM 4GB / ROM 64GB) ราคาในยุโรปอยู่ที่ 699 ยูโร หรือประมาณ 27,500 บาท
  • ราคา Huawei Mate 10 Pro (RAM 6GB/ROM 128GB) ราคาเปิดอยู่ที่ 799 ยูโร หรือประมาณ 31,300 บาท
  • Mate 10 Porsche Design (RAM 6GB/ROM 256GB) ราคาเปิดอยู่ที่ 1395 ยูโร หรือประมาณ 55,500 บาท

สำหรับประเทศไทย คาดว่า Huawei Mate 10 Pro จะเข้ามาจำหน่ายในไทยประมาณช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยที่ราคาจะไม่เกิน 30,000 บาท และในการเปิดตัวช่วงแรก Preorder ก็จะมีของแถมพิเศษแบบต้องร้องว้าวกันอีกอย่างแน่นอน