Google เข้มเตรียมงัดมาตรการปิดกั้นโฆษณาไม่เหมาะสมผ่าน Chrome เริ่มปี 2018

Google เตรียมบล็อกโฆษณาอย่างจริงจังผ่าน Google Chrome ในปี 2018 โดยปิดกั้นโฆษณาที่ล่วงล้ำผู้ชมในหลายรูปแบบเพื่อการแสดงผลโฆษณาที่ดียิ่งขึ้น

ในปี 2016 Google เข้าร่วมกับ Facebook, Procter & Gamble, Unilever, Washington Post และกลุ่มอุตสาหกรรมโฆษณาหลายกลุ่ม เพื่อจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรที่เรียกว่า Coalition for Better Ads เพื่อรักษาสมดุลของการลงโฆษณา และ Google ประกาศในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาถึงความคืบหน้า และมาตรฐานของโฆษณาที่กำลังวางรากฐานกันใหม่คือ

  • ผู้ชมจะไม่เห็นโฆษณาวิดีโอที่เล่นโดยอัตโนมัติ
  • ไม่มีโฆษณาแบบป๊อปอัป
  • ไม่มีโฆษณาที่ฝังเนื้อหาเว็บ
  • ไม่มีโฆษณาขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นของเว็บไซต์ ในขณะที่คุณเลื่อนขึ้นหรือลง
  • ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ จะมีการการปิดกั้นโฆษณาที่ใช้พื้นที่มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของหน้าจอ

แต่ Google ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีบล็อกโฆษณา เช่น การติดตามพฤติกรรมผู้ใช้ เมื่อคุณดูที่เว็บไซแห่งต์หนึ่ง แล้วคุณอาจเห็นโฆษณาสำหรับบริการนั้นๆ ในภายหลัง บน Facebook หรือหากคุณค้นหาผลิตภัณฑ์ใน Amazon คุณอาจเห็นโฆษณาดังกล่าวในภายหลังในไซต์อื่น

การติดตามโฆษณาจะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาได้ โดยเฉพาะกับคนที่พวกเขาต้องการ ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามีการรวบรวมรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล และความสนใจของบุคคล การโฆษณาแบบติดตามจะใช้โค้ดการเขียนโปรแกรมในเบราว์เซอร์ ทำให้เกิดปัญหาทำให้เว็บไซต์โหลดช้า และใช้หน่วยความจำมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงใช้พลังงานจากแบตเตอรี่โทรศัพท์ หรือแบตเตอรี่แล็ปท็อปของคุณมากขึ้น

สุดท้าย Google ยืนยันว่า Chrome จะไม่บล็อกเทคโนโลยีการติดตามโฆษณา และในแถลงการณ์ Coalition for Better Ads กล่าวว่าไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้

“การวิจัยผู้บริโภคทำให้ได้ข้อมูลสำหรับการพัฒนามาตรฐานโฆษณาที่ดียิ่งขึ้น โดยมีการจัดอันดับ 104 โฆษณาบนเว็บเดสก์ท็อปและมือถือ ที่มีคุณลักษณะเข้าข่ายเลวร้าย เมื่อเมียบกับที่ระบุไว้ในมาตรฐาน Better Ads” แต่มาตรฐานไม่ได้ระบุถึงการติดตามลูกค้า เนื่องจากไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยครั้งแรก”

ความเห็นของทีมข่าวล้ำหน้าโชว์

สำหรับนักการตลาดออนไลน์ที่ตามข่าวมาตลอด คงพอปรับตัวได้สำหรับการวาวแผนรูปแบบโฆษณา และสำหรับผู้ใช้นั้น น่าจะได้รับประสบการณ์รับชมในการโฆษณาที่ดีขึ้น

ที่มา :  https://www.cnet.com