รายงานเผย Windows 7 ตกเป็นเหยื่อของ WannaCry มากที่สุด

หลังจากที่แรนซัมแวร์ WannaCry แพร่กระจายไปกว่าร้อยประเทศทั่วโลก  จนมีเครื่องที่ถูกโจมตีไปแล้วนับแสน  ซึ่งนอกจากการใช้วินโดวส์เถื่อนจะเป็นสาเหตุหลักแล้ว  อีกสาเตุที่คาดการณ์กันไว้ก็คือการใช้ระบบปฏิบัติการดึกดำบรรพ์อย่าง Windows XP นั่นเอง

หากแต่รายงานล่าสุดจาก Kaspersky กลับเผยว่า Windows XP นั้นไม่ใช่วินโดวส์ที่ถูกโจมตีด้วย WannaCry มากที่สุด  หากแต่เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่กว่าและยังคงได้รับความนิยมสูงอย่าง Windows 7 ต่างหาก  โดยคิดเป็นอัตราส่วนสูงถึง 98% เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี  ในความเป็นจริงแล้วไมโครซอฟท์ได้ออกแพทช์อุดช่องโหว่ดังกล่าวให้กับ Windows 7 ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา (ส่วน Windows XP ที่หมดซัพพอร์ตไปแล้ว  เพิ่งมาได้แพทช์ฉุกเฉินในภายหลัง) ดังนั้นหมายความว่าคอมพิวเตอร์ที่ติด WannaCry นั้นคือคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ทำการอัพเดทวินโดวส์นั่นเอง

อ้างอิง – TechRadar

ความเห็นของเรา

จากข้อมูลทางสถิติพบว่าในปัจจุบัน Windows 7 ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่มีส่วนแบ่งมากสุด  ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งสูงถึง 48.5% ดังนั้นแล้วจึงไม่แปลกเท่าไหร่นักที่ระบบปฏิบัติการรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุด  จะตกเป็นเหยื่อในการถูกโจมตีมากที่สุด

อนึ่ง รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดไม่ได้หมายถึงจะปลอดภัยกว่าเสมอไป  หากแต่เป็นการอัพเดทระบบปฏิบัติการให้เป็นแพทช์ล่าสุด  และใช้ระบบปฏิบัติการที่ยังได้รับการสนับสนุนอยู่ต่างหาก  ที่จะช่วยรับรองความปลอดภัยของเราได้มากขึ้น