ระวัง..โทรศัพท์ของคุณอาจกำลังแอบส่งเสียง Ultrasonic เพื่อสื่อสารกับบางสิ่งโดยที่คุณไม่รู้ตัว
เพราะหูของมนุษย์ไม่มีความสามารถในการรับฟังเสียงในบางย่าน แต่อุปกรณ์อื่นๆ นั้นสามารถรับฟังได้
กลุ่มนักวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี ได้ค้นพบแอปมากกว่า 230 รายการ ใน Playstore ของ Android
ที่แอบติดตามผู้ใช้ผ่านการใช้เสียง Ultrasonic ในทางเทคนิคเรียกว่า ultrasonic tracking beacons
ซึ่งจะช่วยในการสร้างโปรไฟล์เพื่อติดตามผู้คน โดยคาดว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะติดต่อสื่อสารกันผ่านทาง Beacon
วิธีการทำงาน: สมมุติว่าสมาร์ททีวีของเพื่อนของคุณใช้ Beacon และคุณกำลังดูทีวีเครื่องนั้น
เมื่อสัญญาณจากโทรศัพท์ของคุณตรงกับสัญญาณจากทีวี ผู้ลงโฆษณาก็จะได้รับข้อมูลและเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลตัวคุณ และเพื่อนของคุณ
ในบทความต้นทางที่โพสต์ทางออนไลน์โดยนักวิจัยจาก Braunschweig University of Technology ประเทศเยอรมนี
ทีมงานได้เขียนข้อความว่ามีแอปแอนดรอยด์ถึง 234 แอป “กำลังฟังเสียงผ่าน Beacon อย่างต่อเนื่องอยู่เบื้องหลังโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้”
4 ใน 35 ร้านค้าที่ทีมงานทดลองไปเยือนในสองเมืองในยุโรป มีการใช้ Beacon แบบ Ultrasonic เพื่อติดตามผู้ซื้อเช่นกัน
นักวิจัยพบว่ามีการเข้ารหัสจาก SilverPush ซึ่งเป็นบริษัทในซานฟรานซิสโกซึ่งขายซอฟต์แวร์การติดตามผลแบบข้ามอุปกรณ์ในแอพพลิเคชัน
ให้กับ McDonald’s และ Krispy Kreme เวอร์ชันก่อนๆ ที่จัดจำหน่ายในฟิลิปปินส์ แต่ “ฟังก์ชันนี้ได้ถูกนำออกโดยนักพัฒนาแล้ว” มีอีเมลแจ้งข้อมูลถึง CBS News
Google ยืนยันกับ CBS News ว่าแอปพลิเคชันที่นักวิจัยค้นพบทั้งหมด ได้ถูกระงับหรืออัปเดตเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายส่วนบุคคลของบริษัท
เพื่อให้สามารถใช้ Beacon แบบ Ultrasonic ได้บนอุปกรณ์แอนดรอยด์ นักพัฒนาแอปต้องเปิดเผยกับผู้ใช้ว่าแอปจะใช้ไมโครโฟนโทรศัพท์มือถือของตนเพื่อวัตถุประสงค์นี้
ในขณะที่การใช้ Beacon Ultrasonic ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก แต่ก็มีการจดบันทึกบันทึกว่า
มีการค้นการใช้งานในลักษณะนี้มากขึ้น จากที่พบเพียง 6 แอปในเดือนเมษายน 2015 กระโดดไปเป็น 234 แอปตามที่นักวิจัยชาวเยอรมันระบุ
ความเห็นของทีมข่าวล้ำหน้าโชว์
ความพยายามในการเข้าไปฝังหัว หรือว่าล้วงข้อมูลติดตามลูกค้าเพื่อส่งโฆษณาให้ตรงจุด
นั้นเป้นเรื่องสีเทาในแวดวงของการโฆษณามานานแล้ว
เพียงแต่ว่าครั้งนี้คาบเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคลมากไป
ตราบใดที่เราถืออุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ที่สื่อสารระหว่างกัน
ความเป็นส่วนตัวในข้อมูลอาจจะไม่มีอยู่จริง
ที่มา :http://www.cbsnews.com
