OpenOffice ประสบปัญหาขาดนักพัฒนา และอาจจะต้องหยุดการพัฒนาลง

หลายปีก่อนในช่วงที่ประเทศไทยเริ่มตื่นตัวกับเรื่องของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์  หน่วยต่างๆ ของทางภาครัฐ  และกลุ่มผู้ใช้จำนวนหนึ่ง  ได้ออกมาสนับสนุนการใช้งานซอฟต์แวร์แบบ Opensource เพื่อลดการละเมิดลิขสิทธิ์

หนึ่งในซอฟต์แวร์ที่รณรงค์ให้ใช้กันนั่นคือ OpenOffice.org ซึ่งเป็นชุดโปรแกรมออฟฟิสในลักษณะเดียวกันกับ Microsoft Office ซึ่งมาในวันนี้  ก็มีทีท่าว่า OpenOffice.org นี้อาจจะต้องหยุดพัฒนาแล้วครับ  อันเนื่องจากปัญหาที่ทางโครงการไม่มีนักพัฒนามากพอนั่นเอง

เรื่องมันเริ่มจากที่ Oracle บริษัทด้านฐานข้อมูลรายใหญ่เจ้าหนึ่ง  เข้าซื้อ Sun Microsystem ซึ่งเป็นบริษัทที่รับผิดชอบการพัฒนา OpenOffice.org เป็นหลักเมื่อปี 2010 ซึ่งหลังจากการเข้าซื้อของ Oracle ซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ Sun เป็นผู้พัฒนา  ทั้ง OpenOffice.org และ MySQL ก็เริ่มมีปัญหากับชุมชน  จากท่าทีที่ไม่ชัดเจนของ Oracle ว่าจะทำอย่างไรกับซอฟต์แวร์เหล่านี้ของ Sun ต่อไป

ต่อมาใน 2011 กลุ่มผู้พัฒนาในชุมชน OpenOffice.org จึงเริ่มทนไม่ไหวกับท่าทีอันนิ่งเฉยของ Oracle จึงจัดการ fork โครงการ (แตกโครงการมาพัฒนาต่อเอง) ออกมาพัฒนาต่อในชื่อ LibreOffice ซึ่งบรรดานักพัฒนาเดิมของ OpenOffice.org ก็เริ่มทยอยมาพัฒนาให้กับ LibreOffice แทน  และตัว LibreOffice เองก็เริ่มได้รับความนิยมแทนที่ OpenOffice.org ขึ้นเรื่อยๆ  อีกทั้งดิสโทรลินิกซ์หลายราย  ก็เริ่มแถม LibreOffice ไปแทน OpenOffice.org

และในปี 2012 ทาง Oracle ก็ตัดสินใจยกเอา OpenOffice.org ไปให้ Apache รับผิดชอบดูแลโครงการ  แต่ถึงกระนั้นนักพัฒนาเดิมของ OpenOffice.org ก็ย้ายไปพัฒนา LibreOffice กันเกือบหมดแล้ว  ทำให้ Apache OpenOffice เริ่มเกิดปัญหาขาดนักพัฒนา  และเริ่มมีการพัฒนาที่ตามหลัง LibreOffice มาโดยตลอด

Apache_OpenOffice_logo_and_wordmark_(2014).svg

จนล่าสุด  นาย Dennis E. Hamilton อาสาสมัครรองประธานของโครงการ  ได้ส่งจดหมายเวียนไปในกลุ่มของโครงการ  กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะหยุดพัฒนาโครงการ Apache OpenOffice ลง  อันเนื่องจากการขาดนักพัฒนานั่นเอง

ตัวอย่างหนึ่งของการขาดแคลนนักพัฒนานั่นคือบั๊กร้ายแรงตัวหนึ่งที่ถูกรายงานตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีแพทช์อัพเดทอย่างเป็นทางการใดๆ ออกมาจากทางโครงการ  นอกจาก Hotfix ที่ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดมาติดตั้งเองเท่านั้น  อีกทั้งทางทีมงานยังคงแนะนำให้หันไปใช้ Microsoft Office หรือ LibreOffice แทนเพื่อเลี่ยงบั๊กนี้อีกด้วย

โดยนาย Hamilton ได้เสนอให้โครงการยุติการพัฒนาลง  โดยยังเก็บซอร์สโค๊ดต่างๆ เอาไว้บน Repository ของโครงการ  เพื่อให้ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ต่อไป  พร้อมทั้งให้ปิดระบบแจ้งบั๊กของโครงการ  ให้อยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว

ทั้งนี้ยังคงต้องรอดูบอร์ดของโครงการต่อไปว่าจะทำอย่างไรกับโครงการ  จะปิดหรือจะดำเนินการต่อ  เพราะถึงแม้ว่าทาง Apache OpenOffice จะขาดแคลนนักพัฒนาจนการพัฒนานั้นล่าช้า  แต่ก็ยังมีนักพัฒนาอีกจำนวนหนึ่งที่ต้องการจะพัฒนาต่ออยู่ด้วยเช่นกัน

ที่มา – Engadget เรียบเรียงเพิ่มเติมโดยทีมงาน TechOffside.com