• Smartphone
  • Games
  • Review
ล้ำหน้าโชว์
  • Home
  • Tech News
    • Smartphone
    • Review
    • Games
    • วีดีโอรอบโลก
    • Life Style
    • Security
    • Social News
  • รายการล้ำหน้าโชว์ย้อนหลัง
  • Review
  • Classified
    • Business
    • Solution
    • CSR
  • ติดต่อรายการ
No Result
View All Result
  • Home
  • Tech News
    • Smartphone
    • Review
    • Games
    • วีดีโอรอบโลก
    • Life Style
    • Security
    • Social News
  • รายการล้ำหน้าโชว์ย้อนหลัง
  • Review
  • Classified
    • Business
    • Solution
    • CSR
  • ติดต่อรายการ
No Result
View All Result
ล้ำหน้าโชว์
No Result
View All Result

รีวิว Kingston DataTraveler 2000 สุดยอดแฟลชไดร์ฟแห่งความปลอดภัย

bacidea by bacidea
20 Mar 2016
in Review
35
SHARES
Share on FacebookShare on TwitterLINE

Kingston DataTraveler 2000 เป็นที่สนใจของหลายคน เพราะเป็นแฟลชไดร์ฟที่เน้นเรื่องความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสในระดับ hardware ที่สะดวกและปลอดภัยกว่า

Kingston DataTraveler 2000 เข้ารหัสในระดับ hardware แบบ XTS-AES 256 bit โดยเป็นการเข้ารหัสในตัว ไม่ต้องใช้ software หรือยึดติดกับระบบปฏิบัติการใดๆ ทำให้ Kingston DataTraveler 2000 โดดเด่นกว่าแฟลชไดร์ฟตัวอื่นๆ ที่ใช้การเข้ารหัสในระดับ software และต้องใช้ร่วมกับโปรแกรมซึ่งไม่สะดวกเท่าที่ควร

DSC00335_LUCiD

ที่พิเศษหน่อยก็คือรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ในตัว เพื่อให้เราได้กดรหัสปลดล็อกก่อนจะเสียบใช้งาน โดยมีรหัสแรกเริ่มคือ 1-1-2-2-3-3-4-4 และสามารถเปลี่ยนรหัสได้ตามที่เราต้องการด้วยความยาว 7-15 หลัก

DSC00351_LUCiD

บนตัวแฟลชไดร์ฟมีไฟ LED บอกสถานะอยู่ 3 จุด กับปุ่มตัวเลข 0-9 และปุ่มรูปกุญแจหรือที่ Kingston เรียกว่าปุ่ม “KEY” ซึ่งเป็นปุ่มที่ใช้ควบคุมทุกอย่างตั้งแต่การปลดล็อก โดยกด KEY และตัวแฟลชไดร์ฟก็จะขึ้นไฟกระพริบสีแดงเพื่อรอการกรอกรหัส และเมื่อกรอกรหัสเรียบร้อยก็ให้กดปุ่ม KEY ครั้ง คราวนี้ก็จะขึ้นไฟสีเขียวพร้อมใช้งาน และเนื่องจากมันถูกออกแบบมาเพื่อเน้นความปลอดภัย ดังนั้นหลังจากปลดล็อก 30 วินาที ถ้าไม่มีการใช้งานก็จะกลับสู่สถานะล็อกทันที

และถ้ามีการใช้งานก็ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมล็อก เพราะเมื่อถอดออกจากเครื่องคอมก็จะล็อกตัวเองทันที หรือถ้าใจร้อนอยากให้มันล็อกโดยไม่ต้องรอก็สามารถกดค้างที่ KEY นาน 3 วินาทีได้เช่นกัน

เนื่องการเป็นการเข้ารหัสในระดับ hardware ทำให้การตั้งค่าต่างๆ ก็ต้องทำผ่าน hardware เช่นกัน ซึ่งอาจจะไม่คุ้นมือสำหรับคนยุค digital ที่ถนัดการทำผ่าน software ที่มีคำสั่งชัดเจน แต่ถ้าเป็นคนยุค analog หรือฝ่ายไอทีก็คงคุ้นชินกับการท่องจำคำสั่งที่หลากหลายบนปุ่มเดียวกัน เพราะปุ่ม KEY ของรุ่นนี้ทำหน้าที่ทุกอย่างจริงๆ

DSC00355_LUCiD

ด้านรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆ ผมแนะนำว่าอ่านตามคู่มือจะดีกว่าครับ แต่ถ้าหยิบเฉพาะส่วนหลักที่น่าสนใจก็คือ รุ่นนี้สามารถตั้งค่าให้เป็นแบบ read-only ได้ด้วย ทำให้เครื่องปลายทางไม่สามารถแก้ไขข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟตัวนี้ได้ รวมถึงไวรัสก็ไม่สามารถแอบแฝงมาด้วยเช่นกัน

DSC00349_LUCiD

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า Timeout หรือระยะเวลาการล็อกตัวเองเมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือจะยกเลิกโหมดนี้ไปเลยก็ได้เช่นกัน

แต่ส่วนที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ Kingston DataTraveler 2000 มีระบบป้องกันการแฮกแบบ brute force โดยการสุ่มกดมั่วๆ ดังนั้นถ้ามีการกดรหัสผิดติดต่อกัน 10 ครั้งก็จะเกิดการทำลายตัวเองด้วยการ reset ล้างค่าทุกอย่างให้เหมือนของใหม่แกะกล่อง

ส่วนเรื่องของความเร็วที่เขียนบนหน้ากล่องว่า USB 3.1 Gen 1 ( USB 3.0 ) ถ้าอธิบายให้ง่ายๆ มันก็คือ USB 3.0 นั่นแหละครับ เพียงแต่มันมีชื่อเรียก 2 แบบ

DSC00342_LUCiD

ถ้ามองในแง่ความปลอดภัยและความสะดวก ก็ถือว่าทำได้น่าสนใจที่สุดในชีวิตการรีวิวของผมเลยก็ว่าได้ เพราะที่ผ่านมาผมเห็นแต่การเข้ารหัสแบบ software หรือบางรุ่นก็แบ่ง partition พร้อมกับเข้ารหัส แต่เวลาจัดการต้องทำผ่านโปรแกรมที่ติดตั้งบนคอม ซึ่งมันไม่สะดวกเอามากๆ เพราะนั่นหมายความว่าถ้าเราเปลี่ยนไปใช้คอมเครื่องอื่นก็ต้องติดตั้งโปรแกรมใหม่อีกครั้ง

หรือบางรุ่นก็สะดวกหน่อย เพียงแค่มี software อยู่บนตัวแฟลชไดร์ฟก็สามารถปลดล็อกรหัสได้ แต่ถ้าเผลอไปลบไฟล์โปรแกรมนี้ก็จะปลดล็อกไม่ได้อีกนั่นล่ะ

ซึ่งการจัดการในระดับ hardware สามารถแก้ปัญหาพวกนี้ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะ read-only ที่มันเจ๋งมากๆ มันทำให้แฟลชไดร์ฟเรารอดพ้นจากการแก้ไขไฟล์ที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งเรื่องของไวรัสและเรื่องของ user error

ส่วนราคาในไทยก็ยังไม่เคาะอย่างเป็นทางการ แต่ราคาของเมืองนอกก็ประมาณ 204 usd หรือราวๆ 7,400 บาท และแน่นอนว่าหลายคนตกใจเพราะแฟลชไดร์ฟ 32 GB ทั่วไปราคาก็ไม่ถึงพัน แต่ถ้าเป็นคนที่ต้องการความปลอดภัยจริงๆ ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะไม่มีรุ่นไหนทำได้แบบนี้อีกแล้ว ( อย่างน้อยก็ตอนนี้อ่านะ )

Related Posts

Tech News

Facebook มีการ log out ออกจากบัญชีจำนวนมาก ทำเอาผู้ใช้งง ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

23 January 2021
Tech News

ดัดแปลง Ringfit มาเป็นเกมปั่นจักรยานแข่งในเกม Mario Kart

22 January 2021
Tech News

ลือ iPhone 13 ทุกรุ่น จะใช้ระบบกันสั่นกล้อง Sensor-Shift แบบใน iPhone 12 Pro Max

22 January 2021
Gadget

Casio เปิดตัว Pikachu x Baby-G เอาใจสาวๆ แฟนเกมโปเกมอน

22 January 2021
Tech News

ทีมพัฒนาเกม Among Us ออกมาตอบแล้วว่า “ทำไมเกมถึงอัปเดตช้า”

22 January 2021
Tech News

บริษัทจีนเปิดตัว JingOS ระบบปฏิบัติการสำหรับแท็บเล็ต ที่หน้าตาคล้ายกับ iPad OS

22 January 2021

Review

Review

รีวิว OPPO Enco W11 หูฟังตัวเล็ก เบสดี เชื่อมต่อง่าย ราคา เพียง 1,299 บาท

20 June 2020
รีวิว Wiko View ราคา Review
Review

รีวิว Wiko View นี่คือ สมาร์ทโฟน จอใหญ่ 18:9 ใน ราคาไม่เกิน 5000 บาท !!

16 October 2017
รีวิว Asus ROG Phone 3
Review

รีวิว Asus ROG Phone 3 ราชันย์แห่งเกมมิ่งโฟนตัวจริง จัดเต็มทุกสิ่งที่เกมเมอร์ต้องการ

Review

รีวิว Synology DS220+ NAS รุ่นใหม่ทรงพลังยิ่งขึ้น เร็วแรงด้วยขุมพลัง Intel

ล้ำหน้าโชว์

บริษัท ล้ำหน้าโชว์ จำกัด

18/18 ประเสริฐมนูกิจ 25 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

Follow Us

Facebook มีการ log out ออกจากบัญชีจำนวนมาก ทำเอาผู้ใช้งง ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

23 January 2021

ดัดแปลง Ringfit มาเป็นเกมปั่นจักรยานแข่งในเกม Mario Kart

22 January 2021

ลือ iPhone 13 ทุกรุ่น จะใช้ระบบกันสั่นกล้อง Sensor-Shift แบบใน iPhone 12 Pro Max

22 January 2021

Casio เปิดตัว Pikachu x Baby-G เอาใจสาวๆ แฟนเกมโปเกมอน

22 January 2021

TAG

3BB 5g AI AIS Android Apple asus Covid-19 dtac Facebook Google HUAWEI instagram Intel iOS ipad iPhone Lazada Lenovo LG LINE Microsoft Netflix New Normal Nintendo Nintendo Switch Nokia OnePlus OPPO PlayStation 4 Promotion Qualcomm Razer realme Samsung Shopee smartphone smartwatch sony Truemove H Twitter vivo Windows 10 Xiaomi YouTube
  • SharkShows.tv
  • Freeware.in.th
  • Gogoli.co
  • Digitalmore.co

© 2019 TechOffside.com

No Result
View All Result
  • Home
  • Tech News
    • Smartphone
    • Games
    • Gadget
  • Review
  • รายการย้อนหลัง
  • ติดต่อรายการ

© 2019 TechOffside.com