Nintendo ขายฟิกเกอร์ Amibo ได้แล้ว 9.9 ล้านตัว

พลานุภาพของเหล่าสาวกปู่นินนั้น ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะว่าสินค้าอย่างเจ้าตุ๊กตา Amibo ของทาง Nintendo ที่ออกวางขายมาปีกว่าๆ ตอนนี้สามารถขายไปได้ทั่วโลกเกือบสิบล้านตัวแล้ว

Amibo เป็นฟิกเกอร์ตัวละครต่างๆ ของทาง Nintendo ที่ไม่ได้เป็นแค่เอามาตั้งวางโชว์สวยๆ อย่างเดียว แต่ว่ายังมีผลกับเกมได้ด้วยการที่ฐานของ Amibo จะมีชิพ nfc อยู่ เมื่อเอาไปสแกนกับคอนโทรลเลอร์ของ Wii U หรือ 3DS รุ่นใหม่ ในเกมที่รองรับ ก็จะมีเนื้อหาพิเศษเพิ่มขึ้นมาในเกมนั้นได้

amiibo_bigimage

ในตอนที่แถลงผลประกอบการของ Nintendo เมื่อช่วงปลายปี 2015 ที่ผ่านมา ระบุว่าตอนนี้ Amibo ทุกแบบขายออกไปได้แล้ว 9.9 ล้านตัว ถ้าดูเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ยอดขาย Amibo อยู่ที่ 6.4 ล้านตัว แปลว่าไตรมาสช่วงปลายปี 2015 (ตุลาคม-ธันวาคม) มีคนซื้อฟิกเกอร์ Amibo ไปถึง 3.5 ล้านตัวเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าฟิกเกอร์ของ Nintendo นั้นจะราคาค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับสิ่งที่มันสามารถทำได้ ก็ถือว่าแฟนๆ ยังรักและชอบในคาแรคเตอร์ของทาง Nintendo กันอย่างเหนียวแน่น และในปี 2016 นี้ก็ยังมีคิวตัวใหม่ๆ รอออกขาย แถมยังจะมีเป็นการ์ดสะสม Amibo Card ออกมาเพิ่มอีกด้วย

https://youtu.be/sGXivstjo_Y

ความเห็นจากทีมข่าวล้ำหน้า

ถ้าวัดกันเรื่องของยอดขายเครื่องเกมคอนโซลในยุคนี้ Wii U ถือว่าต้องจบในเร็วๆ นี้ และ Project NX รวมถึงการเอาเกมลงใน smart device คือความหวังที่จะทำให้ Nintendo กลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนในช่วงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ถึงแม้ว่าปัจจุบัน Wii U จะไม่ได้เป็นที่นิยม และเกมมือถืออย่าง 3DS ก็ไม่ได้ขายดิบขายดีเหมือนก่อนยุคสมาร์ทโฟนจะเข้ามา แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นที่ Nintendo จะต้องล่มสลาย เหมือนหลายๆ ค่ายเกมที่ทยอยปิดตัว หรือควบรวมกันเพื่อความอยู่รอด

เพราะว่าแก่นของ Nintendo นั้นมีเสน่ห์ที่มัดใจแฟนๆ ไว้ได้อย่างเหนียวใน ไม่ใช่แค่เกม แต่รวมไปยังคาแรคเตอร์ต่างๆ ในค่ายที่มีแฟนระดับเดนตายพร้อมที่จะซื้อและสนับสนุน โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิดดนั้น Nintendo ยังมีฐานผู้เล่นอยู่เป็นจำนวนมาก

ต้องรอดูจากนี้ 1-2 ปีกับการเปลี่ยนแปลงของ Nintendo ที่จะเริ่มเปิดไปสู่โลกของสมาร์ทโฟน อย่าง Pokemon Go ที่แฟนๆ ทั่วโลกรอคอย รวมถึง Project NX ที่เชื่อเลยว่ากึ๋นระดับปู่นิน ต้องทำสิ่งที่ไม่ธรรมดาออกมา โดยที่ยังรักษาปรัชญาการสร้างเกมของตัวเองเอาไว้อยู่ด้วย

ข้อมูลจาก : Engadget