Need for Speed No Limit เมื่อเกมขับรถไม่ใช่เกมขับรถ!!
ภาคล่าสุดของเกมแข่งรถสุดซิ่งจากค่าย EA อย่าง Need for Speed No Limit ที่ได้ประกาศออกตัวไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า ภาคนี้จะถูกออกแบบและพัฒนาสำหรับการเล่นบนสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ และหลังจากที่เกมออกมาและเราได้ลองเล่นไปได้สักพัก ก็รู้สึกได้เลยจริงๆ ว่ารูปแบบการเล่นของเกมนั้นเปลี่ยนไปแบบชนิดที่ต้องอุทานออกมาเลยว่า “เฮ้ย!! นี่มันเกมขับรถแน่เหรอฟะ!!”
Graphic
Need for Speed No Limit ได้ทีม Firemonkys ที่พัฒนาเกมขับรถบนมือถือที่ขึ้นชื่อเรื่องกราฟฟิคที่สมจริงอย่าง Real Racing 3 มาดูแล สำหรับเกมนี้ต้องยอมรับเรื่องของกราฟฟิกเลยว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลย และตัวเกมยังทำการ optimize ภาพให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่เล่นให้เรียบร้อย ถ้าคุณใช้สมาร์ทโฟนระดับเรือธง CPU แรงๆ, RAM เยอะ, GPU โอเค ภาพในเกมก็จะจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแสงเงา, หยาดเม็ดฝน, แสงไฟ Light trail ในเวลาที่ยิงไนตรัส ฯลฯ
Car Showroom สำหรับเลือกดูโมเดล 3D สวยๆ ของรถทุกคันในเกม
Feature
เอกลักษณ์เด่นของเกมตระกูลนี้ก็คือการแต่งรถ (Mod Shop) และรถใน Need for Speed No Limit ก็มีให้เล่นอยู่เยอะพอสมควร สำหรับการแต่งรถนั้นจะจ่ายด้วย Visual Point ที่ได้มาจากการขับรถในโหมด Underground ซ้ำให้ชนะแล้วสุ่มได้รางวัลตอนชนะมา รถแต่ละคันมีอะไหล่ให้เปลี่ยนเยอะพอสมควร รวมถึงรถที่มีในเกมนี้ก็เป็นบรรดาตัวจี๊ดรถแรง ที่มีตั้งแต่รถตลาดอย่าง Ford Fiesta, Toyota 86, BMW M5, Mazda RX-7, Mercedes-AMG GT ไล่ไปยันระดับ Super Car อย่าง Ferrari 458 Italia หรือ Lumboghini Aventador กันเลย
แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งก็คือ เจ้า Visual Point นี่ได้ยากเหลือเกิน เพราะต้องไปขับซ้ำสนามเดิม แถมต้องเลือกจับฉลากลุ้นว่าจะได้หรือไม่
Overall
การที่เสื่ยงคิดระบบการเล่นแบบใหม่แล้วเอามาใช้กับซีรี่ย์ Need for Speed ถือว่าเป็นการวัดดวงอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าผู้เล่นเป็นสาย Casual คิดว่าน่าจะชอบเพราะมันบังคับได้ง่ายมาก แต่สำหรับทางสายฮาร์ดคอร์นี่จับเล่นได้แป๊บเดียวมีอันต้องส่ายหัวกดสั่ง uninstall เกมทิ้งกันเป็นแถว
Need for Speed No Limit ตัวเกมถึงจะมี In-app purchase แต่ถ้าขยันๆ เล่นก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อก็ได้ และด้วยเกมถูกปรับให้เป็นแบบมือถือสมัยนิยม การขับแข่งกับเพื่อนแบบ Multi-player จึงไม่มี ความสนุกของเกมเลยจะไปอยู่ตรงที่สะสมเงินและของมาปลดล็อครถใหม่ และเอาไปแต่งรถสวยๆ แรงๆ มากกว่า เพราะการขับนั้นใช้ทักษะน้อยกว่าแทบจะทุกเกมขับรถที่เคยเล่นมาเลยก็ว่าได้